Member Login   |  



สถิติผู้ชมเว็บไซต์








 คุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิ์สอบใบขับขี่  

 

คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่
 
  • สำหรับผู้ที่ต้องการขอมีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องเป็นบุคคลที่ อายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • สำหรับผู้ที่ต้องการขอมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ต้องเป็นบุคคลที่ อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • ต้องไม่มีใบอนุญาตขับรถชนิดเดียวกันอยู่แล้ว ต้องไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกยึด หรือ เพิกถอนใบอนุญาติขับขี่รถ
  • สำหรับผู้ที่มีร่างกายพิการ ดังต่อไปนี้ แขนขาดข้างเดียว ขาขาดข้างเดียว ตาบอดข้างเดียว ลำตัวพิการ หูหนวก
  • เมื่อต้องการมีใบอนุญาติขับขี่ รถยนต์ จักรยานยนต์ ต้องขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ขนส่งฯ ก่อน จึงจะทำได้

หลักฐานประกอบคำขอเพื่อการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่
 
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมตัวจริง สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือหลักฐานอื่น ๆ ที่ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมตัวจริง
  • ใบรับรองแพทย์แสดงว่าผู้ขอ ไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
  • แบบคำขอรับใบอนุญาตขับรถ ของกรมการขนส่งทางบก
ขั้นตอนการยื่นหลักฐาน และการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่
  ยื่นหลักฐาน เอกสารต่าง ๆ (เพื่อความเรียบร้อยและรวดเร็วกรุณาตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วนก่อนยื่นต่อเจ้าหน้าที่) กำหนดให้อ่านกฎจราจรก่อนอย่างน้อย 20 นาที
การสอบภาคทฤษฎี
 
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจราที่ท่านควรรู้ก่อนสอบ >>สัญญาณจราจร  และป้ายและเครื่องหมายกำกับ
  •  ทำข้อสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ >> ข้อสอบ 50 ข้อ ต้องสอบได้อย่างน้อย 45 ข้อ (90%)
  • ทำข้อสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์>>ข้อสอบ 50 ข้อ ต้องสอบได้อย่างน้อย 45 ข้อ (90%)
สอบภาคปฎิบัติ
 
  • มีทั้งหมด 7 ท่า ดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
    1. ขับรถเดินหน้า และขับรถเทียบทางเท้า
    2.ขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง
    3.การขับรถถอยหลังเข้าจอด
    4.การกลับรถ
    5.การหยุดรถบนทางราบ
    6.การหยุดรถ
    7.ออกรถบนทางลาดชัน
    การขับรถโดยปฎิบัติตามเครื่องหมายจราจร รถจักรยานยนต์ กำหนดให้ทดสอบภาคปฎิบัติในท่าที่ 7 และต้องให้ปฎิบัติตามเครื่องหมายจราจรไม่น้อยกว่า 3 เครื่องหมาย โดยให้สัญญาณมือและแขน ส่วนรถยนต์ ท่าที่ 1 เป็นท่าบังคับ นอกนั้นในแต่ละจังหวัด ให้กำหนดตามความเหมาะสม


    

 ขั้นตอนในการขอสอบใบขับขี่

 การขอสอบใบขับขี่ใช้ระยะเวลา 2 วันทำการ โดยมีขั้นตอนทั้งหมด ดังนี้



          1. รับบัตรคิวสอบใบขับขี่ ได้ที่กรมการขนส่งทางบกใกล้บ้านท่าน    

          2. นำเอกสารที่เตรียมมายื่นต่อเจ้าหน้าที่        

          3. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ดังนี้        

     1.ทดสอบตาบอดสี โดยให้เรียกชื่อสีหลังจากเห็นสัญญาณไฟจราจรจำลอง

     2.ทดสอบสายตาทางลึก โดยการกดปุ่มเลื่อนเสา 2 เสา ให้อยู่ตำแหน่งตรงกั 

     3.ทดสอบสายตาทางกว้าง เป็นการทดสอบการมองกระจกข้าง โดยการจ้องที่จุดสีตรงกลาง แล้วมีสีต่าง ๆ ขึ้นมาให้เห็นทางหางตาทั้งสองข้าง ให้ตอบให้ถูกต้องว่าสีที่หางตาคือสีอะไร

       4.ทดสอบการใช้เท้า โดยการเหยียบคันเร่ง แล้วเหยียบเบรกหลังเห็นสัญญาณไฟแดง ต้องผ่านเกณฑ์ 2 ใน 3 ครั้ง 

             อบรมทษฏีการขับขี่รถยนต์และการอ่านป้ายจราจร (อบรม 4 ชั่วโมง)

 

               -ตั้งแต่เวลา09.30 น.-14.30 น.

 

            สอบข้อเขียนเกี่ยวกับทฤษฎีในการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีเวลา1ชั่วโมง

                ข้อสอบจำนวน 50 ข้อ ผู้สอบใบขับขี่รถยนต์ต้องตอบถูก 45 ข้อขึ้นไป 

               ทำในคอมพิวเตอร์ รู้ผลทันที 

 

 

          สอบปฏิบัติการขับขี่ ฟังการสาธิตการสอบ หากนำรถยนต์

             หรือรถจักรยานยนต์ไปเองให้นำไปจอดรอใกล้ ๆ สนามสอบ

             หากไม่มี ให้ทำเรื่องเช่ารถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ได้ ตั้งแต่เวลา 13.00 น.

        ขั้นตอนการสอบปฏิบัติรถยนต์


 

 

        1. การขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า

      

       ด้านซ้ายของรถต้องจอดขนานกับขอบทาง มีระยะห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร

       ด้านหน้าของรถต้องไม่ล้ำเกินจุดหยุดรถข้างทาง และมีระยะห่างไม่เกิน 1 เมตร

       ห้ามขับปีนทางเท้าหรือขอบทาง



 

          2. การขับรถเดินหน้าและถอยหลังทางตรง มีการทดสอบให้เลือก 2 แบบ

      

       แบบที่ 1 ขับเดินหน้าและถอยหลังออก ในช่องเดินรถที่มีความยาวประมาณ 10-12 เมตร มีหลักวางขนานกัน

      2 แถว ระยะห่างวัดจากความกว้างของตัวรถบวกเพิ่มไปอีกข้างละ 50 เซนติเมตร ห้ามชนหรือขับเบียดหลักที่วางไว้

      แบบที่ 2 ขับเดินหน้าและถอยหลัง ในช่องที่กำหนดให้ มีขนาดกว้าง 2.5 เมตร โดยล้อรถต้องไม่ทับเส้น และ

      ห้ามชน หรือปีนขอบทาง



 

          3. การขับรถถอยหลังเข้าซอง

               เปลี่ยนเกียร์เดินหน้า และถอยหลังรวมกันได้ไม่เกิน 7 ครั้ง

               ท้ายรถต้องตั้งฉากกับขอบทาง ไม่ปีนหรือไม่ตกขอบทาง

 

ค่าธรรมเนียม

 - รถยนต์ 105 บาท, สามล้อ จักรยานยนต์ 55 บาท

 - ใบอนุญาติแบบพลาสติก เพิ่มอีก 100 บาท

 

 

 การต่ออายุใบขับขี่


         สำหรับใครที่ใบขับขี่หมดอายุ การต่อใบขับขี่ในปัจจุบัน ต้องเข้าฟังการอบรมประมาณ 2 ชั่วโมง เตรียมเอกสารให้

พร้อม แล้วไปยื่นขอต่อใบขับขี่กับเจ้าหน้าที่ โดยหากใบขับขี่ขาดการต่ออายุไม่เกิน 1ปี ให้เข้าฟังอบรม ทดสอบ

สมรรถภาพ และสอบข้อเขียนใหม่ หากใบขับขี่ขาดการต่ออายุเกิน 3 ปี จะต้องสอบใบขับขี่ใหม่ทั้งหมด


เอกสารในการต่อใบขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ 

1. บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา

2. ใบขับขี่ใบเดิมที่หมดอายุ

3. ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือน

4.  หากมีการย้ายทะเบียนบ้าน ให้นำสำเนาทะเบียนบ้านฉบับใหม่ไปด้วย


 

ขั้นตอนในการต่อใบขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ 


          1. ยื่นเอกสารขอต่อใบขับขี่

          2. เข้าฟังการอบรม

          3. ทดสอบสมรรถนะทางร่างกาย

          4. ถ่ายรูป

          5. ชำระค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่รถยนต์ 605 บาท หรือ ค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์

355 บาท และรอรับใบขับขี่ใหม่ได้เลย


            โรงเรียนครูหนุ่ม สอนขับรถยนต์


                                     KRU-NOOMDRIVING SCHOOL


                                     Tel.. 087-7061603 , 084-7981595


                                                               ขอบคุณที่ใช้บริการ..